เปิดในหน้าต่างใหม่
อัพเดท 17 กันยายน 2567

watchOS 11 พร้อมให้ใช้งานแล้ววันนี้

ขอแนะนำแอปสัญญาณชีพ ความหนักเบาในการฝึก การปรับแต่งเพิ่มเติมสำหรับวงแหวนกิจกรรม วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะที่ปรับแต่งให้เป็นส่วนตัวได้มากขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย
อุปกรณ์ Apple Watch Series 10 สามเรือนแสดงการอัปเดตที่มาพร้อม watchOS 11 ซึ่งรวมถึงแอปสัญญาณชีพและวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น
watchOS 11 พร้อมให้ใช้งานแล้ววันนี้ โดยมาพร้อมข้อมูลเชิงลึกสุดล้ำเกี่ยวกับสุขภาพและฟิตเนสของผู้ใช้ พร้อมการปรับแต่งให้เป็นส่วนตัวมากกว่าครั้งไหนๆ
วันนี้ Apple เปิดตัว watchOS 11 พร้อมนำข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพและฟิตเนสที่ทรงพลัง การปรับแต่งให้เป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ความชาญฉลาด และหลากหลายวิธีในการต่อติดกับทุกเรื่องอยู่เสมอมาสู่นาฬิกาที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก
ครั้งนี้ Apple Watch มาพร้อม1 แอปสัญญาณชีพใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบตัวชี้วัดสุขภาพที่สำคัญได้อย่างรวดเร็วแค่เหลือบมอง และเข้าใจบริบทด้านสุขภาพของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น2 ความสามารถในการวัดความหนักเบาในการฝึกยังช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้นเมื่อออกกำลังกายเพื่อปรับปรุงความฟิตและสมรรถภาพของตนเอง ตลอดจนวงแหวนกิจกรรมที่สามารถปรับแต่งให้เข้ากับผู้ใช้ได้มากกว่าเดิม Apple Watch และแอปสุขภาพบน iPhone และ iPad ยังมอบการสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ที่กำลังตั้งครรภ์อีกด้วย
วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะและหน้าปัดรูปภาพใช้ระบบอัจฉริยะเพื่อมอบประสบการณ์ที่มีความเฉพาะตัวมากขึ้น ขณะที่คุณสมบัติเช็คอิน แอปแปลภาษา และความสามารถใหม่ๆ สำหรับคำสั่งนิ้ว "แตะสองครั้ง" บน Apple Watch ก็ช่วยมอบความสะดวกให้ผู้ใช้และหลากหลายวิธีในการต่อติดกับทุกเรื่องอยู่เสมอ

แอปสัญญาณชีพ

แอปสัญญาณชีพใหม่ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบสถานะสุขภาพประจำวันพร้อมทั้งเหลือบมองตัวชี้วัดด้านสุขภาพตอนกลางคืนที่น่าสนใจได้ทันที พวกเขาจึงเห็นตัวชี้วัดที่อยู่นอกเกณฑ์ปกติได้อย่างง่ายดาย ผู้ใช้สามารถรับการแจ้งเตือนเมื่อตัวชี้วัดตั้งแต่สองตัวขึ้นไปอยู่นอกเกณฑ์ปกติ และดูข้อความแสดงรายละเอียดว่าการเปลี่ยนแปลงในตัวชี้วัดเฉพาะเหล่านี้ อาจเชื่อมโยงกับการใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง เช่น ระดับความสูงที่มีการเปลี่ยนแปลง การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่ความเจ็บป่วย
แอปสัญญาณชีพจะแจ้งเตือนและจำแนกประเภทสัญญาณชีพที่อยู่นอกเกณฑ์ปกติโดยใช้อัลกอริทึมที่พัฒนาขึ้นโดยข้อมูลจริงจากการศึกษาเรื่องหัวใจและการเคลื่อนไหวของ Apple (Apple Heart and Movement Study) ซึ่งเป็นการวิจัยที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำความเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพหัวใจและการออกกำลังกายให้ดียิ่งขึ้น
แอปสัญญาณชีพใหม่แสดงบน Apple Watch Ultra 2
แอปสัญญาณชีพใหม่ช่วยให้ผู้ใช้ Apple Watch ดูตัวชี้วัดด้านสุขภาพตอนกลางคืนได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรับการแจ้งเตือนเมื่อตัวชี้วัดตั้งแต่สองตัวขึ้นไปอยู่นอกเกณฑ์ปกติ และเข้าใจบริบทเกี่ยวกับสุขภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้น

ความหนักเบาในการฝึก

ความหนักเบาในการฝึกเป็นวิธีใหม่ในการวัดความเข้มข้นและระยะเวลาในการออกกำลังกายเพื่อทำความเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อร่างกายของผู้ใช้อย่างไรบ้างเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งเป็นแนวคิดที่ใช้โดยนักกีฬาและโค้ชชั้นยอดเพื่อช่วยในการฝึกซ้อมและเพิ่มสมรรถภาพให้นักกีฬา วันนี้ Apple Watch สามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึกแบบเฉพาะตัวเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ทำความเข้าใจความหนักเบาในการฝึกของตน ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาตัดสินใจโดยมีข้อมูลประกอบเกี่ยวกับการฝึกซ้อมในแต่ละวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเตรียมตัวสำหรับงานต่างๆ
Apple Watch จะสร้างความหนักเบาในการฝึกในช่วง 28 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ใช้ทั้งระยะเวลาในการออกกำลังกายตลอดช่วงเวลาดังกล่าวและความหนักในการออกกำลังกายของผู้ใช้มาคิดคำนวณ ซึ่งวัดโดยค่าวัดความพยายามใหม่ ค่าวัดความพยายามจะแสดงหลังการออกกำลังกายในแต่ละครั้ง เพื่อติดตามความยากในการฝึกตั้งแต่ระดับ 1 ถึง 10 โดยประเภทการออกกำลังกายแบบเน้นคาร์ดิโอที่ได้รับความนิยมจะใช้อัลกอริทึมใหม่และการผสมผสานตัวชี้วัดการออกกำลังกายเพื่อสร้างค่าวัดความพยายามโดยประมาณโดยอัตโนมัติ ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับด้วยตนเองได้ และสำหรับการออกกำลังกายที่ไม่มีการคำนวณค่าประมาณโดยอัตโนมัติ เช่น การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ผู้ใช้จะได้รับแจ้งเตือนเพื่อให้กรอกค่าวัดความพยายามของตนหลังการออกกำลังกายแต่ละครั้ง
ผู้ใช้สามารถดูในแอปกิจกรรมและแอปสัญญาณชีพได้ว่าความหนักเบาในการฝึกของตนในช่วง 7 วันล่าสุดเป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับในช่วง 28 วันที่ผ่านมา โดยจำแนกเป็นระดับต่ำมาก ต่ำ คงที่ สูง หรือสูงมาก ซึ่งสิ่งนี้ช่วยมอบข้อมูลเชิงลึกที่ใช้ประโยชน์ได้จริงในการบ่งชี้ระดับความเครียดของร่างกายว่าเพิ่มขึ้น คงเดิม หรือผ่อนคลายลง ผู้ใช้จะได้ปรับการฝึกซ้อมให้เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และข้อมูลในแอปฟิตเนสบน iPhone จะแสดงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความฟิตของผู้ใช้ หากยังคงฝึกที่ระดับความเข้มข้นในปัจจุบัน เช่น ความฟิตที่อาจเปลี่ยนแปลงไปหรือความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ
ความหนักเบาในการฝึกของผู้ใช้ซึ่งอยู่ในระดับ "คงที่" แสดงบน Apple Watch Series 10
ผู้ใช้สามารถดูในแอปกิจกรรมได้ว่าความหนักเบาในการฝึกของตนในช่วง 7 วันล่าสุดเป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับในช่วง 28 วันที่ผ่านมา โดยจำแนกเป็นระดับต่ำมาก ต่ำ คงที่ สูง หรือสูงมาก

การปรับแต่งที่มากกว่าเดิมสำหรับวงแหวนกิจกรรม

วงแหวนกิจกรรมสามารถปรับแต่งได้มากกว่าเดิมด้วย watchOS 11 โดยวันนี้ เป้าหมายวงแหวนกิจกรรมสามารถปรับแต่งตามวันในสัปดาห์ได้แล้ว จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับตารางเวลาของผู้ใช้ ไม่ว่าผู้ใช้จะวางแผนวันพักระหว่างการฝึกซ้อม ได้รับบาดเจ็บ หรือแค่ต้องการวันหยุด ตอนนี้ ผู้ใช้จะสามารถหยุดวงแหวนชั่วคราวเป็นเวลาหนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน หรือนานกว่านั้น โดยไม่ส่งผลกระทบต่อรางวัลสถิติต่อเนื่อง และแอปฟิตเนสบน iPhone ยังให้ผู้ใช้ปรับแต่งแถบสรุปได้ด้วย
เป้าหมายวงแหวนกิจกรรมแบบกำหนดเองของผู้ใช้แสดงบน Apple Watch Series 10
ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งเป้าหมายวงแหวนกิจกรรมตามวันในสัปดาห์ เพื่อให้วงแหวนมอบแรงจูงใจที่เหมาะสมในช่วงเวลาที่เหมาะสมได้

การสนับสนุนเพิ่มเติมในระหว่างตั้งครรภ์

watchOS 11, iOS 18 และ iPadOS 18 มอบประสบการณ์เพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ที่บันทึกการตั้งครรภ์ในแอปสุขภาพ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตของพวกเขาในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ แอปการติดตามรอบเดือนบน Apple Watch จะแสดงอายุครรภ์และให้ผู้ใช้บันทึกอาการต่างๆ ที่พบบ่อยในระหว่างตั้งครรภ์ พวกเขายังจะได้รับแจ้งให้ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ในแอปสุขภาพ เช่น เกณฑ์การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจที่สูง เนื่องจากอัตราการเต้นของหัวใจมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์
แอปการติดตามรอบเดือนแสดงบน Apple Watch Series 10 และ iPhone 16 Pro
เมื่อผู้ใช้บันทึกการตั้งครรภ์ในแอปสุขภาพบน iPhone หรือ iPad แอปการติดตามรอบเดือนบน Apple Watch จะแสดงอายุครรภ์และให้ผู้ใช้บันทึกอาการต่างๆ ที่พบบ่อยในระหว่างตั้งครรภ์

วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะที่ปรับแต่งได้มากขึ้น

วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็วจากหน้าปัดนาฬิกาใดๆ ก็ได้ และวันนี้ยังใช้ระบบอัจฉริยะเพื่อเพิ่มและแนะนำวิดเจ็ตตามเวลา วันที่ สถานที่ กิจวัตรประจำวัน และอีกมากมายซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงคุณสมบัติที่ต้องการบน Apple Watch ได้ง่ายดายกว่าเดิม วิดเจ็ตใหม่ซึ่งรวมถึงรูปภาพ, ระยะทาง, Shazam และอีกมากมายพร้อมให้ใช้งานแล้ววันนี้ และยังมีวิดเจ็ตแบบอินเทอร์แอ็คทีฟใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้โต้ตอบกับแอปได้โดยตรงจากวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ และตอนนี้กิจกรรมสดก็สามารถใช้งานบน Apple Watch ภายในวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะได้แล้ว
วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นแสดงบน Apple Watch Series 10
วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็วจากหน้าปัดนาฬิกา และยังชาญฉลาดยิ่งขึ้นบน watchOS 11 คุณสมบัติกิจกรรมสดใช้งานได้แล้ววันนี้บน Apple Watch ภายในวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ

เช็คอิน แอปแปลภาษา และคำสั่งนิ้ว "แตะสองครั้ง"

คุณสมบัติเช็คอินมาอยู่บน Apple Watch แล้ว และสามารถเข้าถึงได้โดยตรงจากแอปออกกำลังกาย รวมทั้งแอปข้อความ โดยวันนี้ ผู้ใช้สามารถเริ่มเช็คอินระยะเวลาการออกกำลังกายของตน ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งตอนเช้าตรู่หรือการเข้ายิมตอนดึก เพื่อให้เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวติดตามดูการออกกำลังกายได้จนจบ
วันนี้ แอปแปลภาษาพร้อมให้ใช้งานบน Apple Watch แล้ว โดยจะใช้การเรียนรู้ของระบบเพื่อการจำเสียงพูดและการแปลอย่างรวดเร็วซึ่งผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้โดยตรงบนข้อมือ และเมื่อผู้ใช้เดินทางไปยังที่ที่ใช้ภาษาแตกต่างไปจากภาษาบน Apple Watch ของตน วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะยังสามารถแสดงวิดเจ็ตแอปแปลภาษาขึ้นมาโดยอัตโนมัติได้ด้วย
นอกจากนี้ คำสั่งนิ้ว "แตะสองครั้ง" ยังใช้เพื่อเลื่อนดูแอปต่างๆ ได้แล้ว ผู้ใช้จึงโต้ตอบกับ Apple Watch ได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยมือเดียว

หน้าปัดนาฬิกาแบบใหม่

watchOS 11 มาพร้อมหน้าปัดนาฬิกาใหม่สามแบบ ได้แก่
  • หน้าปัดนาฬิการูปภาพที่อัปเดตใหม่จะช่วยผู้ใช้เลือกรูปภาพที่ดีที่สุดโดยโดยใช้การเรียนรู้ของระบบเพื่อให้คำแนะนำตามความสวยงาม องค์ประกอบภาพ และแม้แต่การแสดงออกทางสีหน้า จากนั้น อัลกอริทึมแบบเฉพาะจะหาองค์ประกอบภาพที่ดีที่สุดโดยการปรับตำแหน่งของตัวแบบภายในเฟรมให้เหมาะสมกับหน้าปัดและสร้างมุมมองความลึก และตอนนี้หน้าปัดรูปภาพก็มีโหมดไดนามิกที่สามารถทำให้ภาพใหม่ปรากฏขึ้นทุกครั้งที่ผู้ใช้ยกข้อมือขึ้นมา
  • หน้าปัดนาฬิกาฟลักซ์มาพร้อมดีไซน์กราฟิกสุดโดดเด่นที่จะเติมเต็มหน้าจอด้วยสีที่เปลี่ยนไปในแต่ละวินาที โดยใช้ประโยชน์จากจอภาพที่ใหญ่ขึ้นและอัตรารีเฟรชที่ 1Hz บน Apple Watch Series 10
  • หน้าปัดนาฬิกาสะท้อนแสงมาพร้อมหน้าปัดที่เปล่งประกายโดดเด่นซึ่งจะค่อยๆ ตอบรับกับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้
หน้าปัดนาฬิการูปภาพ หน้าปัดนาฬิกาฟลักซ์ และหน้าปัดนาฬิกาสะท้อนแสงแสดงบนอุปกรณ์ Apple Watch Series 10 สามเรือน
หน้าปัดนาฬิกาใหม่ใน watchOS 11 ซึ่งรวมถึงหน้าปัดนาฬิการูปภาพที่อัปเดตใหม่ หน้าปัดนาฬิกาฟลักซ์ และหน้าปัดนาฬิกาสะท้อนแสงออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากจอภาพที่ใหญ่ขึ้นและอัตรารีเฟรชที่เร็วขึ้นบน Apple Watch Series 10

แอปน้ำขึ้น-น้ำลง

watchOS 11 มาพร้อมแอปน้ำขึ้น-น้ำลงใหม่สำหรับ Apple Watch ที่จะช่วยให้ผู้ใช้วางแผนและเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมในแหล่งน้ำเปิด และรับรู้ถึงสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ ผู้ใช้สามารถดูการคาดการณ์ระดับน้ำขึ้นน้ำลงของชายฝั่งและจุดเล่นเซิร์ฟทั่วโลกได้ต่อเนื่องถึง 7 วัน ซึ่งรวมถึงข้อมูลน้ำขึ้นและน้ำลงเต็มที่ ช่วงน้ำขึ้นและน้ำลง ระดับความสูงและทิศทางของน้ำขึ้นน้ำลง ตลอดจนช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและดวงอาทิตย์ตก โดยข้อมูลทั้งหมดนี้จะมีการแสดงเทียบกับไทม์ไลน์ นอกจากนี้ยังสามารถดูชายหาดใกล้ๆ ตำแหน่งของตนบนแผนที่ได้อย่างสะดวก และกลไกหน้าปัดใหม่จะแสดงข้อมูลระดับน้ำขึ้นน้ำลง ณ สถานที่โปรดหรือชายหาดที่ใกล้ที่สุดให้มองเห็นได้ง่ายๆ เพียงแค่เหลือบมอง
แอปน้ำขึ้น-น้ำลงแสดงบน Apple Watch Ultra 2
watchOS 11 มาพร้อมแอปน้ำขึ้น-น้ำลงใหม่ที่ผู้ใช้สามารถดูระดับน้ำขึ้นน้ำลงของชายฝั่งและจุดเล่นเซิร์ฟทั่วโลกได้ต่อเนื่องถึง 7 วัน ซึ่งรวมถึงข้อมูลน้ำขึ้นและน้ำลงเต็มที่

การอัปเดตเพิ่มเติมบน watchos11

  • แอปออกกำลังกายมาพร้อมประเภทการออกกำลังกายมากกว่าเดิม เช่น กีฬาฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล ออสเตรเลียนฟุตบอล ฮอกกี้กลางแจ้ง ลาครอส สกีลงเขา สกีวิบาก สโนว์บอร์ด กอล์ฟ เรือพายกลางแจ้ง โดยวันนี้ผู้ใช้สามารถติดตามระยะทางได้แล้ว และยังมีแผนที่เส้นทางสำหรับประเภทการออกกำลังกายเพิ่มเติมด้วย
  • วันนี้ คุณสามารถสร้างการออกกำลังกายที่กำหนดเองสำหรับการออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำในสระได้แล้ว และมุมมองการออกกำลังกายถัดไปใหม่สำหรับการออกกำลังกายที่กำหนดเองทุกประเภทจะแสดงกิจกรรมที่เหลืออยู่ในช่วงปัจจุบันและแสดงภาพรวมของช่วงที่กำลังจะมาถึง
  • Apple Maps มีเส้นทางเดินเขาของอุทยานแห่งชาติทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา แถมผู้ใช้ยังสามารถออกแบบเส้นทางการเดินเขาและการเดินของตัวเองภายในแอปแผนที่บน iPhone ได้อีกด้วย ผู้ใช้สามารถบันทึกเส้นทางเหล่านี้ลงใน Apple Watch และเข้าถึงแบบออฟไลน์ พร้อมรับคำแนะนำแบบเลี้ยวต่อเลี้ยวได้ แม้จะไม่มี iPhone อยู่ใกล้ๆ
  • การแจ้งเตือนโดยสรุป ซึ่งขับเคลื่อนโดย Apple Intelligence จะได้รับการส่งต่อจาก iPhone 16, iPhone 16 Plus, iPhone 16 Pro, iPhone 16 Pro Max, iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max to Apple Watch2
  • การแสดงตั๋วใหม่ในแอปกระเป๋าสตางค์สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติม เช่น เวลาเปิดของสถานที่ ขณะที่กิจกรรมสดจะแสดงที่นั่งและข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่ด้านบนของวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ4

ความเป็นส่วนตัว

ความเป็นส่วนตัวเป็นพื้นฐานในการออกแบบและพัฒนาคุณสมบัติสุขภาพทั้งหมดของ Apple และเมื่ออุปกรณ์ของผู้ใช้งานถูกล็อคด้วยรหัสผ่าน, Touch ID หรือ Face ID ข้อมูลสุขภาพและฟิตเนสทั้งหมดที่อยู่ในแอปสุขภาพ นอกเหนือจากข้อมูล ID ทางแพทย์แล้ว ก็จะถูกเข้ารหัส นอกจากนี้ข้อมูลสุขภาพใดๆ ก็ตามที่สำรองไว้ใน iCloud ก็จะได้รับการเข้ารหัสทั้งในระหว่างรับส่งและเมื่ออยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของ Apple นอกจากนี้เมื่อใช้ iOS, iPadOS และ watchOS ที่มีการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยพร้อมด้วยรหัสผ่านเป็นค่าเริ่มต้น ข้อมูลของแอปสุขภาพที่ซิงค์ไปยัง iCloud ก็จะได้รับการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ซึ่งหมายความว่าแม้แต่ Apple เองก็ไม่มีคีย์สำหรับถอดรหัสข้อมูล และไม่สามารถอ่านข้อมูลนั้นได้
ความพร้อมใช้งาน
watchOS 11 สามารถใช้งานได้แล้ววันนี้สำหรับ Apple Watch Series 6 และใหม่กว่า และต้องใช้ iPhone XS หรือใหม่กว่าที่ใช้ iOS 18 คุณสมบัติบางประเภทอาจใช้ไม่ได้ในอุปกรณ์บางเครื่องและในบางภูมิภาค
แชร์บทความ

Media

  • เนื้อหาของบทความนี้

  • รูปภาพในบทความนี้

  1. แอปสัญญาณชีพออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านสุขภาพที่ดีโดยทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อใช้ทางการแพทย์
  2. Apple Intelligence จะพร้อมให้ใช้งานในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรี คุณสมบัติชุดแรกของ Apple Intelligence จะพร้อมให้ใช้งานในรุ่นเบต้าในเดือนหน้า โดยเป็นส่วนหนึ่งของ iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia 15.1 ขณะที่อีกหลายคุณสมบัติจะพร้อมให้ใช้งานในเดือนต่อๆ ไป และจะสามารถใช้งานได้บน iPhone 16, iPhone 16 Plus, iPhone 16 Pro, iPhone 16 Pro Max, iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max รวมถึง iPad และ Mac พร้อมชิป M1 หรือใหม่กว่าที่ตั้งค่าภาษาของอุปกรณ์และ Siri เป็นภาษาอังกฤษแบบสหรัฐอเมริกา ส่วนภาษาและแพลตฟอร์มอื่นๆ จะทยอยเปิดให้ใช้งานในปีหน้า โดยภายในปีนี้ Apple Intelligence จะเพิ่มการรองรับภาษาอังกฤษในแบบออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ และสหราชอาณาจักร และในปีหน้า Apple Intelligence จะรองรับภาษาอื่นๆ เพิ่มเติม รวมถึงภาษาจีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และสเปน
  3. การปรับปรุงเกี่ยวกับตั๋วใน Apple Wallet ใช้งานได้กับกิจกรรมจากผู้ออกตั๋วที่เข้าร่วม

สื่อมวลชน

ช่องทางให้ความช่วยเหลือของ Apple สำหรับสื่อมวลชน

[email protected]