เปิดในหน้าต่างใหม่
ข่าวประชาสัมพันธ์ 15 พฤษภาคม 2567

วันนี้ Apple ประกาศเปิดตัวคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงใหม่ๆ ซึ่งรวมถึง Eye Tracking หรือการติดตามดวงตา Music Haptics และ Vocal Shortcuts

คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงใหม่ๆ ของ Apple ที่จะพร้อมใช้งานภายในปีนี้ รวมถึงการติดตามดวงตาที่จะช่วยให้ผู้ใช้ควบคุม iPad และ iPhone ได้ด้วยการใช้ดวงตาเพียงอย่างเดียว
คูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย วันนี้ Apple ประกาศเปิดตัวคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงใหม่ๆ ที่จะพร้อมใช้งานภายในปีนี้ ซึ่งรวมถึงการติดตามดวงตาที่จะช่วยให้ผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ควบคุม iPad หรือ iPhone ได้ด้วยการใช้ดวงตาเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ Music Haptics ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยิน สามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงในรูปแบบใหม่โดยใช้ Taptic Engine ใน iPhone, Vocal Shortcuts จะช่วยให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ ได้ด้วยคำสั่งเสียงแบบกำหนดเอง, Vehicle Motion Cues สามารถช่วยลดภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหวหรืออาการเมารถเมื่อใช้ iPhone หรือ iPad ในยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ และยังมีคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงอีกมากมายที่จะพร้อมใช้งานใน VisionOS คุณสมบัติเหล่านี้เป็นการผสมผสานพลังของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ Apple เข้าด้วยกัน พร้อมการใช้ประโยชน์จาก Apple silicon, ปัญญาประดิษฐ์ และการเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์ เพื่อยกระดับคำมั่นสัญญาที่ Apple ยึดมั่นมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษในการออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับทุกคน
“เราเชื่อมั่นอย่างลึกซึ้งว่านวัตกรรมมีพลังในการเปลี่ยนแปลงที่จะสามารถเติมเต็มชีวิตของผู้คนได้” Tim Cook, CEO ของ Apple กล่าว “นั่นเป็นเหตุผลที่ Apple สนับสนุนการออกแบบที่ครอบคลุมโดยการใส่ความสามารถด้านการเข้าถึงไว้ในแกนหลักของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์มาเป็นเวลาเกือบ 40 ปีแล้ว เรายังคงผลักดันขอบเขตของเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง และคุณสมบัติใหม่ๆ เหล่านี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันยาวนานของเราในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ให้กับผู้ใช้ทุกคน”
"ในแต่ละปี เราได้สร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับการเข้าถึง" Sarah Herrlinger ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย Global Accessibility Policy and Initiatives ของ Apple กล่าว “คุณสมบัติใหม่เหล่านี้จะสร้างผลกระทบให้กับชีวิตของผู้ใช้หลากหลายกลุ่ม โดยการมอบวิธีใหม่ๆ ในการสื่อสาร การควบคุมอุปกรณ์ของพวกเขา และการใช้ชีวิตในโลกใบนี้”

การติดตามดวงตามาอยู่บน iPad และ iPhone แล้ว

การติดตามดวงตาซึ่งขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ ช่วยให้ผู้ใช้มีตัวเลือกบนอุปกรณ์ในการไปยังส่วนต่างๆ บน iPad และ iPhone ด้วยการใช้ดวงตาเพียงอย่างเดียว คุณสมบัตินี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางร่างกายโดยเฉพาะ โดยผู้ใช้สามารถใช้กล้องหน้าในการตั้งค่าและปรับเทียบได้ภายในไม่กี่วินาที และด้วยความที่การเรียนรู้ของระบบจะเกิดขึ้นบนอุปกรณ์ของผู้ใช้ ข้อมูลทั้งหมดที่ใช้ในการตั้งค่าและควบคุมคุณสมบัตินี้จึงถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยบนอุปกรณ์และจะไม่มีการแชร์กับ Apple
การติดตามดวงตาใช้งานได้กับแอปฯ iPadOS และ iOS โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์หรืออุปกรณ์เสริมใดๆ ผู้ใช้สามารถใช้การติดตามดวงตาเพื่อเลื่อนผ่านองค์ประกอบต่างๆ ของแอปฯ และใช้ Dwell Control หรือการควบคุมการอยู่นิ่งเพื่อเปิดใช้งานแต่ละองค์ประกอบ เข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติม เช่น ปุ่มจริง การปัด และคำสั่งนิ้วอื่นๆ โดยใช้ดวงตาเพียงอย่างเดียว

Music Haptics ทำให้เสียงเพลงเข้าถึงได้มากขึ้น

Music Haptics ช่วยให้ผู้ใช้ที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยินสามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงบน iPhone ในรูปแบบใหม่ เมื่อเปิดใช้งานคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงนี้ Taptic Engine ใน iPhone จะเล่นการแตะ ผิวสัมผัส และการสั่นที่ได้รับการปรับแต่งให้เข้ากับเสียงเพลง Music Haptics ใช้งานได้กับเพลงหลายล้านเพลงในแค็ตตาล็อก Apple Music และจะพร้อมใช้งานเป็น API สำหรับนักพัฒนาเพื่อทำให้เสียงเพลงเข้าถึงได้มากขึ้นในแอปฯ ของพวกเขา
Music Haptics ช่วยให้ผู้ใช้ที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยินสามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงบน iPhone ในรูปแบบใหม่

คุณสมบัติใหม่สำหรับเสียงพูดหลากหลายแบบ

Vocal Shortcuts ช่วยให้ผู้ใช้ iPhone และ iPad กำหนดคำสั่งเสียงพูดที่ Siri สามารถเข้าใจได้ในแบบของตัวเอง เพื่อเปิดใช้งานคำสั่งลัดและทำงานที่ซับซ้อนให้สำเร็จได้ Listen for Atypical Speech เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้มีทางเลือกในการปรับปรุงการจำเสียงพูดสำหรับรูปแบบเสียงพูดที่หลากหลาย โดย Listen for Atypical Speech จะใช้การเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์ เพื่อจดจำรูปแบบเสียงพูดของผู้ใช้ คุณสมบัติเหล่านี้ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่มีอาการผิดปกติหรืออาการลุกลามซึ่งส่งผลต่อการพูด เช่น สมองพิการ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) หรือโรคหลอดเลือดสมอง โดยจะช่วยยกระดับการปรับแต่งและการควบคุมของผู้ใช้ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากคุณสมบัติที่เปิดตัวไปใน iOS 17 สำหรับผู้ใช้ที่พูดไม่ได้หรือเสี่ยงต่อการสูญเสียความสามารถในการพูด
“ปัญญาประดิษฐ์มีศักยภาพในการปรับปรุงการจำเสียงพูดสำหรับผู้คนนับล้านที่มีเสียงพูดผิดปกติ เราจึงรู้สึกตื่นเต้นที่ Apple ได้นำคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงใหม่ๆ เหล่านี้มาสู่ผู้บริโภค” Mark Hasegawa Johnson นักวิจัยหลักของโครงการ Speech Accessibility ที่ Beckman Institute for Advanced Science and Technology ประจำ University of Illinois Urbana-Champaign กล่าว"โครงการ Speech Accessibility เป็นความพยายามในวงกว้างที่ได้รับการสนับสนุนจากชุมชน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้บริษัทและมหาวิทยาลัยพัฒนาการจำเสียงให้แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ Apple ก็เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการช่วยการเข้าถึงที่ทำให้โครงการ Speech Accessibility เป็นจริงได้"

Vehicle Motion Cues สามารถช่วยลดภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหวหรืออาการเมารถได้

Vehicle Motion Cues เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับ iPhone และ iPad ที่สามารถช่วยลดภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหวหรืออาการเมารถสำหรับผู้โดยสารในยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ การวิจัยแสดงให้เห็นว่าภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหวหรืออาการเมารถมักเกิดจากความขัดแย้งทางประสาทสัมผัสระหว่างสิ่งที่บุคคลเห็นกับสิ่งที่พวกเขารู้สึก ซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้บางรายไม่สามารถใช้งาน iPhone หรือ iPad ได้อย่างสะดวกขณะโดยสารยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ Vehicle Motion Cues จะแสดงจุดบนขอบหน้าจอที่จะขยับไปพร้อมๆ กับการเคลื่อนที่ของยานพาหนะ เพื่อช่วยลดความขัดแย้งทางประสาทสัมผัสโดยไม่รบกวนคอนเทนต์หลัก คุณสมบัตินี้จะใช้เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งมาบน iPhone และ iPad จึงสามารถรับรู้ได้เมื่อผู้ใช้อยู่ในยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่และจะตอบสนองผ่านหน้าจออย่างสอดคล้อง ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้คุณสมบัตินี้แสดงโดยอัตโนมัติบน iPhone หรือสามารถเปิดและปิดในศูนย์ควบคุมได้
Vehicle Motion Cues เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับ iPhone และ iPad ที่สามารถช่วยลดภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหวหรืออาการเมารถสำหรับผู้โดยสารในยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่

CarPlay มาพร้อมการสั่งการด้วยเสียงและอัปเดตการช่วยการเข้าถึงเพิ่มเติม

คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงที่จะพร้อมใช้งานบน CarPlay ได้แก่ การสั่งการด้วยเสียง ฟิลเตอร์สี และการจำเสียง ผู้ใช้สามารถไปยังส่วนต่างๆ บน CarPlay และควบคุมแอปฯ ต่างๆ ได้โดยใช้แค่เสียงของพวกเขาด้วยคุณสมบัติการสั่งการด้วยเสียง ขณะที่ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยินก็สามารถเปิดการแจ้งเตือนเพื่อรับแจ้งเตือนเสียงแตรรถและเสียงไซเรนด้วยคุณสมบัติการจำเสียง สำหรับผู้ใช้ที่ตาบอดสี ฟิลเตอร์สีจะทำให้อินเทอร์เฟซ CarPlay ใช้งานได้ง่ายขึ้น พร้อมคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงด้านการมองเห็นอื่นๆ ซึ่งรวมถึงข้อความตัวหนา
คุณสมบัติการจำเสียงใหม่ใน CarPlay จะแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อได้ยินเสียงที่น่าจะเป็นเสียงไซเรน
CarPlay ได้รับการอัปเดตใหม่ให้มาพร้อมคุณสมบัติการจำเสียง ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยินสามารถเปิดการแจ้งเตือนเพื่อรับแจ้งเตือนเสียงแตรรถและเสียงไซเรนด้วยคุณสมบัติการจำเสียงได้

คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงที่จะพร้อมใช้งานใน VisionOS

คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงที่จะพร้อมใช้งานใน VisionOS ภายในปีนี้ รวมถึงคำบรรยายสดทั่วทั้งระบบที่จะช่วยให้ทุกคน รวมถึงผู้ใช้ที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยิน สามารถติดตามคำพูดในการสนทนาสดและเสียงจากแอปฯ ต่างๆ ได้ ขณะที่คำบรรยายสดสำหรับ FaceTime ใน VisionOS จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้จำนวนมากขึ้น ได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์อันโดดเด่นในการเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันโดยใช้ Persona ของตนได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ Apple Vision Pro จะเพิ่มความสามารถในการย้ายคำบรรยายโดยใช้แถบหน้าต่างระหว่าง Apple Immersive Video เช่นเดียวกับการรองรับอุปกรณ์ช่วยฟัง Made for iPhone และตัวประมวลผลเสียงของประสาทหูเทียมเพิ่มเติม และการอัปเดตสำหรับการช่วยการเข้าถึงด้านการมองเห็นจะมาพร้อมคุณสมบัติลดความโปร่งใส, Smart Invert, และการทำให้แสงสว่างวาบมืดลงสำหรับผู้ใช้ที่มองเห็นไม่ชัดหรือผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงแสงจ้าและการกะพริบถี่ๆ
ประสบการณ์คำบรรยายสดใน VisionOS แสดงจากมุมมองของผู้ใช้ Apple Vision Pro
VisionOS จะมาพร้อมคุณสมบัติคำบรรยายสดเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยินสามารถติดตามคำพูดในการสนทนาสดและเสียงจากแอปฯ ต่างๆ ได้
คุณสมบัติเหล่านี้จะเข้ามารวมกับคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงมากมายที่มีอยู่แล้วใน Apple Vision Pro เพื่อมอบระบบอินพุตที่ยืดหยุ่นและอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายซึ่งออกแบบมาโดยคำนึงถึงกลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลาย คุณสมบัติต่างๆ เช่น VoiceOver, ซูม, และฟิลเตอร์สียังช่วยให้ผู้ใช้ที่ตาบอดหรือมองเห็นไม่ชัดสามารถเข้าถึงการประมวลผลเชิงมิติพื้นที่ได้ ในขณะที่คุณสมบัติต่างๆ เช่น การใช้งานเครื่องตามที่กำหนด สามารถรองรับการใช้งานของผู้ที่มีความบกพร่องทางการรับรู้ ผู้ใช้สามารถควบคุม Vision Pro ด้วยดวงตา มือ หรือเสียงแบบผสมผสานกัน โดยผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกายสามารถใช้คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึง เช่น การควบคุมสวิตช์ การทำงานด้วยเสียง และการควบคุมการอยู่นิ่งได้
“Apple Vision Pro เป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดเท่าที่ผมเคยใช้มาอย่างไม่ต้องสงสัย” Ryan Hudson-Peralta ผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่ปรึกษาด้านการช่วยการเข้าถึง และผู้ร่วมก่อตั้ง Equal Accessibility LLC จากดีทรอยต์กล่าว “ในฐานะคนที่เกิดมาโดยไม่มีมือและเดินไม่ได้ ผมรู้ดีว่าโลกใบนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อผม ดังนั้น การได้เห็นว่า VisionOS ใช้งานได้จริงๆ จึงเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก นี่เป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังและความสำคัญของการออกแบบที่เข้าถึงได้และคำนึงถึงทุกคน”

ข้อมูลอัปเดตเพิ่มเติม

  • สำหรับผู้ใช้ที่ตาบอดหรือมองเห็นไม่ชัด VoiceOver จะมาพร้อมเสียงใหม่ๆ Voice Rotor หรือตัวหมุนเสียงพูดที่ยืดหยุ่น การควบคุมระดับเสียงแบบกำหนดเอง และความสามารถในการปรับแต่งคำสั่งลัดคีย์บอร์ด VoiceOver บน Mac
  • แว่นขยาย จะนำเสนอโหมดตัวอ่านใหม่และตัวเลือกในการเปิดโหมดการตรวจจับได้อย่างง่ายดายด้วยปุ่มแอ็คชั่น
  • ผู้ใช้อักษรเบรลล์จะมีวิธีใหม่ในการเริ่มต้นและอยู่ในโหมด การป้อนอักษรเบรลล์บนหน้าจอ เพื่อการควบคุมและแก้ไขข้อความที่รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การป้อนอักษรเบรลล์บนหน้าจอยังรองรับภาษาญี่ปุ่น การป้อนอักษรเบรลล์แบบหลายบรรทัดด้วย Dot Pad และตัวเลือกในการเลือกตารางอินพุตและเอาต์พุตที่แตกต่างกันอีกด้วย
  • สำหรับผู้ใช้ที่มองเห็นไม่ชัด Hover Typing จะแสดงตัวอักษรที่ใหญ่ขึ้นเมื่อพิมพ์ในช่องข้อความ โดยสามารถแสดงในแบบอักษรและสีที่ผู้ใช้ต้องการได้
  • สำหรับผู้ใช้ที่เสี่ยงต่อการสูญเสียความสามารถในการพูด คุณสมบัติ เสียงส่วนตัว จะพร้อมให้บริการในภาษาจีนกลางเร็วๆ นี้ และผู้ใช้ที่มีปัญหาในการออกเสียงหรืออ่านประโยคเต็มๆ จะสามารถสร้างเสียงส่วนตัวโดยใช้วลีที่สั้นลงได้
  • สำหรับผู้ใช้ที่พูดไม่ได้ คุณสมบัติ เสียงพูดสด จะมาพร้อมหมวดหมู่ต่างๆ และรองรับการแสดงควบคู่ไปกับ คำบรรยายสด
  • สำหรับผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย Virtual Trackpad สำหรับ AssistiveTouch จะช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมอุปกรณ์ของตนโดยใช้พื้นที่เล็กๆ ของหน้าจอเป็นแทร็คแพดที่ปรับขนาดได้
  • การควบคุมสวิตช์ จะมีตัวเลือกในการใช้กล้องบน iPhone และ iPad เพื่อจดจำการใช้คำสั่งนิ้วในท่าทางต่างๆ แทนสวิตช์
  • การควบคุมด้วยเสียง จะรองรับคำศัพท์แบบกำหนดเองและคำที่ซับซ้อน

เฉลิมฉลองวันตระหนักรู้ถึงการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม (Global Accessibility Awareness Day) กับ Apple

สัปดาห์นี้ Apple ขอแนะนำคุณสมบัติใหม่ๆ คอลเลคชั่นที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อเฉลิมฉลองวันตระหนักรู้ถึงการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม
  • โดยตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ Apple Store ในบางสาขา จะจัดเซสชั่นฟรีเพื่อช่วยให้ลูกค้าสำรวจและค้นพบคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาชื่นชอบ Apple Piazza Liberty ในมิลานจะนำเสนอผู้ที่อยู่เบื้องหลัง “Assume that I can" แคมเปญสุดไวรัลเนื่องในวันดาวน์ซินโดรมโลก และการสำรองที่นั่งแบบกลุ่มสำหรับ Today at Apple ซึ่งพร้อมให้บริการตลอดทั้งปีใน Apple Store ทั่วโลกทำให้ Apple Store กลายเป็นสถานที่ที่เพื่อน ครอบครัว โรงเรียน และชุมชน สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงร่วมกันได้
  • คำสั่งลัด มาพร้อม Calming Sounds ซึ่งจะเล่นเสียงผ่อนคลายที่ช่วยสร้างเสริมบรรยากาศและลดสิ่งรบกวนสมาธิ เพื่อให้ผู้ใช้โฟกัสกับสิ่งที่ต้องการหรือพักผ่อนหย่อนใจได้
  • เข้าไปที่ App Store เพื่อสำรวจ แอปฯ และเกมอันน่าทึ่ง ที่ส่งเสริมการช่วยการเข้าถึงและคำนึงถึงผู้ใช้ทุกคน รวมถึงเกม Unpacking บน App Store ที่เปิดกว้างสำหรับทุกคนและมีรางวัลการันตี แอปฯ สำหรับเป็นเครื่องมือการสื่อสารทางเลือก (Augmentative and Alternative Communication: AAC) และอีกมากมาย
  • แอปฯ Apple TV จะยกย่องนักสร้างสรรค์ผู้บุกเบิก นักแสดง และนักเคลื่อนไหวที่แบ่งปันประสบการณ์ของผู้พิการในด้านต่างๆ อย่างกระตือรือร้น โดยธีมของปีนี้คือ Remaking the World ซึ่งแต่ละเรื่องราวจะเชิญชวนให้ผู้ชมจินตนาการถึงโลกที่ทุกคนมีพลังในการสร้างเรื่องราวของความเป็นมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
  • Apple Books จะเน้นย้ำถึงประสบการณ์ชีวิตที่เล่าผ่านมุมมองของผู้เขียนซึ่งเป็นผู้พิการในคอลเลคชั่นที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีในรูปแบบของ eBook และหนังสือเสียง
  • การออกกำลังกาย การทำสมาธิ และเคล็ดลับของผู้ฝึกสอนบน Apple Fitness+ เป็นมิตรสำหรับผู้ใช้ที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยินมากขึ้นด้วยภาษามืออเมริกัน และตอนนี้ คุณสมบัติถึงเวลาเดินก็มาพร้อมข้อความถอดเสียงในแอปฯ Apple Podcasts แล้ว การออกกำลังกายใน Fitness+ จะมาพร้อมคำอธิบายเสียง เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ที่ตาบอดหรือมองเห็นไม่ชัด ตลอดจนตัวปรับแต่งเพื่อให้ผู้ใช้ทุกระดับสามารถมีส่วนร่วมได้
  • ผู้ใช้สามารถไปที่ บริการช่วยเหลือของ Apple เพื่อเรียนรู้วิธีปรับแต่งอุปกรณ์ Apple โดยใช้คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงที่มาพร้อมเครื่อง โดย เพลย์ลิสต์การช่วยการเข้าถึงของ Apple จะช่วยให้ผู้ใช้ได้เรียนรู้วิธีการปรับแต่ง Apple Vision Pro, iPhone, iPad, Apple Watch และ Mac ในแบบที่เหมาะสมกับพวกเขาที่สุด ตั้งแต่การปรับการทำงานของคำสั่งนิ้วไปจนถึงการปรับแต่งวิธีนำเสนอข้อมูลบนหน้าจออุปกรณ์
แชร์บทความ

Media

  • เนื้อหาของบทความนี้

  • รูปภาพในบทความนี้

สื่อมวลชน

ช่องทางให้ความช่วยเหลือของ Apple สำหรับสื่อมวลชน

[email protected]